Liverpool Football Club has been owned by Fenway Sports Group since October 2010 with principal owner John W. Henry overseeing plenty of big-money transfers in that time
เว็บข่าวบอลวันนี้ ขอนำเสนอเจ้าของประธานสโมสรที่เข้ามาปลุกยักษ์หลับ ลิเวอร์พูล สมยานามเครื่องจักรสีแดง หงส์แดงแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซี่ไซด์ที่อดีตเคยครองความยิ่งใหญ่เป็นถึงแห่งเกาะอังกฤษจนถึงเขย่าบรรลังก์เวทียุโรปมาแล้ว ก่อนที่จะเงียบสนิทในยุคที่ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน สร้างชื่อเสียงเลื่องลือระบือนาม คว้าแชมป์เป็นว่าเล่น แต่กระนั้นเมื่อชายคนนี้เข้ามา เทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล จากปลิงมะกัน จอร์ท ยิลเลต และ ทอม ฮิค ทำให้ลิเวอร์มีความหวังอีกครั้ง
John W henry ถ้าไม่มีชายคนนี้ลิเวอร์พูลอาจไม่ตื่นจากฝันร้าย
จอน ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เขาคืออภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันนั้นคือข่าวเมื่อปี 2010 ชายผู้ที่เป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล บอสตัน เรด ฟ็อก ที่มีข่าวกำลังจะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรลิเวอร์พูลด้วยเงินเพียง 300 ปอนด์เท่านั้น นั้นคือข่าวที่ปรากฏในตอนนั้น เขาเป็นใครไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ชายคนนี้เคยก่อนหน้านี้ได้เทคโอเวอร์ส บอสตัน เรด ฟ็อก ก่อนที่จะพาเรด ฟ็อกกลับมาคว้าแชมป์ อเมริกันได้อย่างยิ่งใหญ่ นั้นคือสิ่งเดียวที่สาวกหงแดงส์รู้ว่าเขากำลังจะทำแบบเดียวกันที่ลิเวอร์พูล
ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา เขาใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาดขายก่อนแล้วค่อยซื้อและตัวที่ซื้อก็ต้องใช้จริงๆ และเขาคือชายผู้นำพาโครตผู้จัดการทีมชาวเยอรมันบุตรแห่งไมน์ เจอร์เก้น คลอปป์ เข้ามาคืนชีพเครื่องจักรสีแดงที่ผลงานไม่คงเส้นคงวาได้แค่เกือบและยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดมาประดับสโมสรได้เลยตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น 1 มาเป็นพรีเมียร์ลีก เกริ่นมาจนยืดเยื้อวันนี้ ข่าวบอล ขอพาไปดู 10 นักเตะที่ จอน ดับเบิ้ลยู เฮนรี่เซ็นอนุมัติเข้าทีมว่านายคือคนที่ใช่แล้วสร้างผลงานได้อย่างตราตึงใจ จะมีใครบ้างนั้นไปรับชมพร้อมกันเลย อ้าวปายยย
10) ฟาบินโญ่ ค่าตัว 43.7 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับฟาบินโญ่จากโมนาโกในเดือนพฤษภาคม 2018 เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก การพ่ายแพ้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิง ชนะ เลิศ ต่อเรอัล มาดริด นักเตะชาวบราซิลรายนี้จะกลายเป็นเสาหลักของทีมที่คว้าถ้วยรางวัลใหญ่ 4 รายการภายในระยะเวลา 12 เดือนตั้งแต่ปี 2019-20
ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ และแล้วฟาบินโญ่กับลิเวอร์พูลก็ได้สิ้นสุดลงหลังจากรับใช้สโมสรไป 5 ฤดูกาลเมื่อเขาตกลงย้ายไปร่วม สโมสรใน ซาอุดีอาระเบีย โปรลีกอัต-อิตติฮัดด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์
9) โมฮาเหม็ด ซาลาห์ - 43.9 ล้านปอนด์
ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับโมฮาเหม็ด ซาลาห์จากโรม่า โดยนักเตะชาวอียิปต์รายนี้กลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาออกจากเชลซี
ซาลาห์ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลิเวอร์พูล และอยู่ในอันดับที่ 5 ของผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ซาลาห์ต้องการอีกเพียง 4 ประตูจึงจะถึง 200 ประตูในทุกรายการให้กับหงส์แดง
8) โคดี้ กักโป - 44 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับโคดี้ กักโปจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมของปีนี้ เขามีข่าวเชื่อมโยงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดณ เวลาที่ย้ายทีม แต่เลือกที่จะย้ายไปแอนฟิลด์ แทนที่จะเป็นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
หนึ่งในประตูแรกของกักโปให้กับสโมสรคือการเจอกับยูไนเต็ดในเกมชนะ 7-0 ที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนมีนาคม ชาวดัตช์รายนี้ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของแนวรุกของคล็อปป์ในปี 2023-24
7) ดิโอโก้ โชต้า - 45 ล้านปอนด์
ดิโอโก้ โชต้าเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลจากวูล์ฟส์ในเดือนกันยายน 2020 โดยธิอาโก้ อัลคันทาราจะมาถึงในสัปดาห์เดียวกัน นักเตะทีมชาติโปรตุเกสยิงไปแล้ว 47 ประตูจากการลงเล่น 126 นัดให้หงส์แดงนับตั้งแต่เขาออกจากโมลินิวซ์
หลังจากการย้ายออกไปของโรแบร์โต เฟอร์มิโน ความสำคัญของโชต้าต่อแนวรุกลิเวอร์พูลก็เพิ่มขึ้น กองหน้าสารพัดประโยชน์รายนี้ยังคงเป็นตัวจริงของหงส์แดง
6) หลุยส์ ดิอาซ - 50 ล้านปอนด์
ในเดือนมกราคม ปี 2022 ลิเวอร์พูลตัดสินใจเซ็นสัญญากับหลุยส์ ดิอาซจากปอร์โต้ เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเผชิญหน้ากับผู้เล่นรายนี้ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีก
นัก เตะทีมชาติ โคลอมเบียจะถูกเซ็นสัญญาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากซาดิโอ มาเน่ทางปีกซ้ายในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดิแอซได้รับบาดเจ็บจาก ACL ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาต้องพักเกือบทั้งฤดูกาล 2022/23 แต่ตั้งแต่นั้นมาเขาก็กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมของคล็อปป์
5) นาบี เกอิต้า - 52.75 ล้านปอนด์
นาบี เกอิต้า เป็นหนึ่งในนักเตะที่ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญาด้วยเงินก้อนใหญ่ในยุคคล็อปป์ โดยย้ายจากแอร์เบ ไลป์ซิกในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 โดยตกลงข้อตกลงเมื่อ 12 เดือนก่อน เกอิต้าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าถ้วยรางวัลสำคัญทั้งหมดที่เป็นไปได้ตั้งแต่ปี 2019-20
อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บทำให้เวลาเล่นของเกอิต้าในแอนฟิลด์ลดลงอย่างมาก เขาจะออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์ในฐานะนักเตะฟรีเอเยนต์เพื่อเซ็นสัญญากับแวร์เดอร์ เบรเมน ชุดบุนเดสลีกา
4) โดมินิค โซบอสไล - 60 ล้านปอนด์
หนึ่งในการเซ็นสัญญาใหม่ล่าสุดของลิเวอร์พูล โดมินิค โซบอสไล มาจากแอร์เบ ไลป์ซิกในช่วงซัมเมอร์
เขาใช้ชีวิตในเมอร์ซีย์ไซด์แล้วเพื่อกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งกองกลางหงส์แดงโฉมใหม่ โดยลงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมพรีเมียร์ลีกทั้ง 10 เกมจนถึงตอนนี้
3) อลิสสัน เบ็คเกอร์ - 65 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับอลิสสัน เบ็คเกอร์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ด้วยค่าตัวซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับผู้รักษาประตูในฟุตบอลโลกเป็นเวลาสองสามสัปดาห์ หลังจากนั้นไม่นานสถิตินั้นก็ถูกทำลายโดยเชลซีด้วยการมาถึงของเกปา อาร์ริซาบาลาก้า
ในฤดูกาลแรกของอลิสสัน เขาพาสโมสรคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก และตามมาด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในอีกหนึ่งปีต่อมา เขายังคงเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของหงส์แดง และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งของเขา
2) เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค - 75 ล้านปอนด์
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ย้ายจากเซาแธมป์ตัน มาร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 75 ล้าน ปอนด์ในเดือนมกราคม 2018 เขาฟื้นฟูแนวรับของหงส์แดงและเปลี่ยนทีมให้เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งภายในไม่กี่เดือน นักเตะชาวดัตช์รายนี้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลในช่วงซัมเมอร์ หลังจากการจากไปของจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ย้ายไปซาอุดีอาระเบีย
1) ดาร์วิน นูเนซ - 85 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับดาร์วิน นูเนซในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 จากเบนฟิก้า โดยกองหน้ารายนี้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการเจอกับสโมสรในแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงไม่กี่เดือนก่อนข้อตกลง
หลังจากปีแรกที่แอนฟิลด์ด้วยผลงานที่ไม่คงเส้นคงวา นูเนซก็เริ่มมีผลงานที่ดีขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยทำได้ 7 ประตูในทุกรายการจนถึงตอนนี้
